บริษัทฮีโน่มอเตอร์ส จำกัด ประเทศญี่ปุ่น, บริษัทฮีโน่มอเตอร์สแมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัดและบริษัทฮีโน่มอเตอร์สเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศก่อตั้งฐานการผลิตแล ะพัฒนาผลิตภัณฑ์ ในประเทศไทยเพื่อใช้เป็นศูนย์กลางของธุรกิจในภูมิภาคอาเซียน
โดยได้แต่งตั้งให้ คุณสมชาย เปลี่ยนแก้ว ซึ่งมีประสบการณ์และผลการทำงานอย่างยอดเยี่ยมกับฮีโน่มาอย่างยาวนาน เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ของ ฮีโน่มอเตอร์ส แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) โดยการสร้างศูนย์การผลิตและ พัฒนาผลิตภัณฑ์ ที่ อำเภอบางบ่อ สมุทรปราการ เพื่อเป็นศูนย์การวางแผนผลิตภัณฑ์ การพัฒนา และการผลิตที่เหมาะสมกับภูมิภาคอาเซียน ศูนย์กลางการผลิตแห่งใหม่นี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 400,000 ตรม. (ประมาณ 250 ไร่) โดยจะเริ่มก่อสร้างต้นเดือนกรกฏาคม 2562 และคาดว่าจะเริ่มเปิดดำเนินงานได้ในปี 2564
โดยศูนย์นี้ประกอบด้วยศูนย์การผลิตที่เป็นโรงงานแห่งใหม่ และศูนย์ พัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งมีสนามทดสอบพร้อมอาคารปฏิบัติการ โดยใช้เงินลงทุนประมาณ 3,560 ล้านบาท
โดยฮีโน่เรามีเป้าหมายในการให้บริการลูกค้าเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุด จัดหาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมที่สุดโดยการผลิตรถยนต์แต่ละคันที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละท่านได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ศูนย์กลางการผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้รวมการวางแผนผลิตภัณฑ์ การพัฒนา และการผลิต รวมทั้งการบริการแบบบูรณาการในอาเซียนไว้ด้วยกัน เพื่อสนับสนุนการเจริญเติบโตของธุรกิจลูกค้าในภูมิภาคอาเซียน
กลุ่มบริษัทฮีโน่จะปฏิรูปโครงสร้างทางธุรกิจเพื่อบรรลุเป้าหมายการเติบโตอย่างยั่งยืนไปจนถึงปี 2568 โดยกำหนดให้ประเทศไทยเป็นตลาดที่สำคัญ เป็นเสาหลักแห่งที่สองรองจากญี่ปุ่น นอกจากนี้ประเทศไทยยังเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจที่สำคัญและเป็นผู้ขับเคลื่อนการผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์ และ การบริการแบบบูรณาการภายในภูมิภาคอาเซียน
ศูนย์แห่งใหม่จะเป็นศูนย์ที่เสริมสร้างความแข็งแกร่งในการวางแผน การพัฒนาการผลิตสินค้าในประเทศไทย เป็นศูนย์ที่ได้รับการออกแบบให้มีความสามารถในการจัดหาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับภูมิภาคอาเซียน
ศูนย์แห่งนี้จะพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับภูมิภาคโดยสร้างสนามทดสอบรถบรรทุก เพื่อให้ประเทศไทยสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและถูกต้องแม่นยำ โดยการรวมฟังก์ชั่นการผลิตเข้าด้วยกันเพื่อการปรับปรุงพัฒนาประสิทธิภาพในการผลิต นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากโรงงานโคกะ (Koga Plant) ซึ่งเป็นโรงงานแม่ในประเทศญี่ปุ่น ช่วยให้ประเทศไทยสามารถผลิตสินค้าที่แข่งขันได้และตรงกับความต้องการของลูกค้าในระยะเวลาที่เหมาะสม ศูนย์การผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์จะเริ่มผลิตรถยนต์บรรทุกและรถยนต์โดยสารสำหรับตลาดประเทศไทยในปี 2564 และจะเริ่มผลิตเพื่อส่งออกไปยังตลาดในภูมิภาคอาเซียนประมาณ ปี 2567
ฮีโน่จึงให้ความสำคัญกับแนวทางสามประการ นั่นคือ
(1) ผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าที่มาพร้อมกับความปลอดภัยและเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม
(2) การบริการแบบบูรณาการ จะปรับเปลี่ยนตามรถยนต์แต่ละคัน
(3) พื้นที่กิจกรรมใหม่ เพื่อสร้างคุณค่าให้กับลูกค้าและสังคมของเราอย่างต่อเนื่อง